เมนู

พระวินัยปิฎก ปริวาร [เอกุตตริกนัย] 3. ติกวาร
การให้ถือเสนาสนะมี 3 อย่าง คือ
1. ให้ถือในวันเข้าพรรษาต้น 2. ให้ถือในวันเข้าพรรษาหลัง
3. ให้ถือในช่วงพ้นจากระยะนั้น

ว่าด้วยอาพาธ เป็นต้น
อาบัติที่ภิกษุอาพาธจึงต้อง ไม่อาพาธไม่ต้อง มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุไม่อาพาธจึงต้อง อาพาธไม่ต้อง มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุทั้งอาพาธ ทั้งไม่อาพาธก็ต้อง มีอยู่

ว่าด้วยงดปาติโมกข์ เป็นต้น
การงดปาติโมกข์ที่ไม่ชอบธรรมมี 3 การงดปาติโมกข์ที่ชอบธรรมมี 3
ปริวาสมี 3 อย่าง คือ
1. ปฏิจฉันนปริวาส 2. อัปปฏิจฉันนปริวาส
3. สุทธันตปริวาส
มานัตมี 3 อย่าง คือ
1. ปฏิจฉันนมานัต 2. อัปปฏิจฉันนมานัต
3. ปักขมานัต
รัตติเฉทของภิกษุผู้อยู่ปริวาสมี 3 อย่าง คือ
1. สหวาสะ(การอยู่ร่วมกัน) 2. วิปปวาสะ(การอยู่ปราศ)
3. อนาโรจนา(การไม่บอก)

ว่าด้วยต้องอาบัติภายใน เป็นต้น
อาบัติที่ภิกษุต้องภายใน ไม่ต้องภายนอก มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุต้องภายนอก ไม่ต้องภายใน มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุต้องทั้งภายใน ทั้งภายนอก มีอยู่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :441 }


พระวินัยปิฎก ปริวาร [เอกุตตริกนัย] 3. ติกวาร
อาบัติที่ภิกษุต้องภายในสีมา ไม่ต้องภายนอกสีมา มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุต้องภายนอกสีมา ไม่ต้องภายในสีมา มีอยู่
อาบัติที่ภิกษุต้องทั้งภายในสีมา ทั้งภายนอกสีมา มีอยู่

ว่าด้วยต้องอาบัติด้วยอาการ 3 อย่าง เป็นต้น
ภิกษุต้องอาบัติด้วยอาการ 3 อย่าง คือ
1. ต้องทางกาย 2. ต้องทางวาจา
3. ต้องทางกายกับวาจา
ภิกษุต้องอาบัติแม้อื่นอีกด้วยอาการ 3 อย่าง คือ
1. ต้องในท่ามกลางสงฆ์ 2. ต้องในท่ามกลางคณะ
3. ต้องในสำนักบุคคล
ภิกษุออกจากอาบัติด้วยอาการ 3 อย่าง คือ
1. ออกด้วยกาย 2. ออกด้วยวาจา
3. ออกด้วยกายกับวาจา
ภิกษุออกจากอาบัติแม้อื่นอีกด้วยอาการ 3 อย่าง คือ
1. ออกในท่ามกลางสงฆ์ 2. ออกในท่ามกลางคณะ
3. ออกในสำนักบุคคล
ให้อมูฬหวินัยที่ไม่ชอบธรรมมี 3 ให้อมูฬหวินัยที่ชอบธรรมมี 3

ว่าด้วยข้อที่สงฆ์มุ่งหวัง เป็นต้น
สงฆ์เมื่อมุ่งหวัง พึงลงตัชชนียกรรมแก่ภิกษุประกอบด้วยองค์ 3 คือ
1. ก่อความบาดหมาง ก่อความทะเลาะ ก่อความวิวาท ก่อความ
อื้อฉาว ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์
2. โง่เขลา ไม่ฉลาด มีอาบัติมาก ต้องอาบัติกำหนดไม่ได้
3. อยู่คลุกคลีกับคฤหัสถ์ด้วยการคลุกคลีกับคฤหัสถ์ที่ไม่สมควร

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :442 }